วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทะเลสาบซีหู 西湖


ทะเลสาบซีหู 西湖




  ประวัติศาสตร์อันยาวนานถึง 2,100 ปี สมัยราชวงศ์สุย (ค.ศ. 581-618) จากคำสั่งขุดคลองต้ายุ่นเหอ (Grand Canal)
ขององค์ฮ่องเต้สุยหยางตี้ รัชกาลที่ 2 ของราชวงศ์สุย เพื่อเชื่อมดินแดนทางเหนือกับทางใต้ จากปักกิ่งมายังหางโจว ได้ผลักดัน
ให้เมืองหางโจวเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ในหน้าประวัติศาสตร์จีน หางโจว เจริญถึงขีดสุดเมื่อ ราชวงศ์ซ่งได้ตัดสินใจย้ายเมืองหลวงจากเมืองไคเฟิง ที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำเหลืองลงมายัง หางโจว ที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง เพื่อความปลอดภัยจากการกรุกรานของชนเผ่าจิน และได้ตั้งราชวงศ์ซ่งใต้ (ค.ศ. 1127-1279) ขึ้น การย้ายเมืองหลวงดังกล่าวได้ผลักดันให้ชื่อของ 'หางโจว' ติดอยู่ในทำเนียบ 1 ใน 7 เมืองหลวงเก่าของจีน ร่วมกับ อันหยาง, ซีอาน, ลั่วหยาง, ไคเฟิง, หนานจิง และ ปักกิ่ง
และยังถูกกล่าวไว้ใน บทกวีหลายบทที่แต่งขึ้น สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) โดยได้รับแรงบัลดาลใจจากความงามอันหลากสีสันของเมืองหางโจว แต่จากเหตุการณ์ "กบฏไท่ผิง" (ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19) ทำให้ เมืองที่สวยงามนี้ถูกทำลายแทบจะไม่เหลือร่องรอยของเมืองที่เคยมีนามก้องโลกให้หลงเหลืออยู่เลย สามารถลอดผ่านได้ ขณะที่ด้านบนสะพานก็มีเกวียนและม้าสัญจรผ่านไปมา








แม้ว่าในเวลาต่อมา ชนเผ่ามองโกลจะเข้ามาปกครองแผ่นดินจีนในนามของราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1206-1368) โดยยึดเอา ต้าตู (ปักกิ่ง) ที่อยู่ทางภาคเหนือเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางทางการเมือง-การปกครอง แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทางใต้ หางโจวก็ยังคงความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอยู่
ไม่น่าสงสัยเลยว่า Kinsai (เป็นชื่อที่ มาร์โค โปโล ใช้เรียกหางโจว) เป็นเมืองที่ยอดเยี่ยม และงดงามที่สุดในโลก เมือง (หางโจว) มีความเส้นรอบวงประมาณ 100 ไมล์ และเกือบทุกส่วนของเมืองสามารถไปถึงได้ด้วยทางบก หรือ คลอง" กล่าวกันว่า มีสะพานอยู่ 12,000 แห่ง โดยสะพานที่ทอดผ่านลำคลองสายสำคัญนั้นจะถูกสร้างไว้สูงตระหง่าน และออกแบบอย่างดีให้เรือลำใหญ่ที่ปลดเสาเรือลงแล้ว



5 ความคิดเห็น: